เปิดตำนาน VIK – ไวน์จากหุบเขาแห่งความฝันในชิลี

แบรนด์ VIK ก่อตั้งโดย Alexander Vik นักลงทุนและนักฝันผู้มีวิสัยทัศน์ระดับโลก ซึ่งมีเป้าหมายไม่ใช่แค่สร้างไวน์...แต่คือการ สร้างไวน์ที่ดีที่สุดในโลก จากแผ่นดินใหม่ของไวน์โลกอย่าง ประเทศชิลี

ในปี 2004 เขาและทีมผู้เชี่ยวชาญเดินทางสำรวจทั่วทวีปอเมริกาใต้ และพบ หุบเขา Millahue Valley – ดินแดนที่เต็มไปด้วยพลังงานแห่งธรรมชาติในภาคกลางของชิลี ด้วยภูมิประเทศที่หลากหลาย ความสูงจากระดับน้ำทะเลที่พอเหมาะ และกระแสลมเย็นจากแปซิฟิก VIK จึงถือกำเนิดขึ้นในหุบเขาแห่งนี้

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ VIK

สิ่งที่ทำให้ VIK โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือความ บูรณาการระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะ ในการผลิตไวน์แต่ละขวด

✔ ไร่องุ่นแบบยั่งยืน (Sustainable vineyard) ปลูกด้วยแนวคิด “zero impact” ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และการฟื้นฟูธรรมชาติ

✔ การเลือก clone & parcel อย่างแม่นยำ ทุกต้นองุ่นผ่านการคัดสายพันธุ์และปลูกในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดตามโครงสร้างดินและสภาพแสง

✔ Philosophy of Perfection – ไวน์แต่ละรุ่นผสมผสานหลากหลาย clone และระดับความสูง เพื่อสร้าง “ไวน์แห่งมิติ” ที่ซับซ้อนและน่าค้นหา

✔ โรงบ่มไวน์ที่เป็นงานสถาปัตยกรรมระดับโลก ทั้งศิลป์และฟังก์ชัน – ให้ประสบการณ์แบบ immersive สำหรับนักดื่มและนักท่องเที่ยวระดับพรีเมียม

1. VIK Millahue – สุดยอดไวน์จาก “หุบเขาแห่งทองคำ” ที่คว้า 100 คะแนนเต็มจาก James Suckling

VIK Millahue คือไวน์ธง (Flagship Wine) ของแบรนด์ VIK ที่เกิดขึ้นจากความฝันของ Alexander Vik นักลงทุนชาวนอร์เวย์ผู้มีวิสัยทัศน์ว่า "จะสร้างไวน์ที่ดีที่สุดในโลก" เขาและทีมผู้เชี่ยวชาญเลือกผืนดินกว่า 4,300 เฮกตาร์ในเขต Millahue Valley แปลตรงตัวว่า "สถานที่แห่งทองคำ" เพื่อก่อตั้งไร่องุ่นที่ผสานทั้ง terroir พิเศษ วิทยาศาสตร์ และศิลปะการทำไวน์เข้าไว้ในที่เดียว

VIK Millahue คือผลลัพธ์สูงสุดของปรัชญานั้น — ไวน์ที่ไม่เพียงแสดงศักยภาพของดินแดน Millahue ได้อย่างโดดเด่น แต่ยังเป็น "ไวน์ที่สะท้อนเวลา ความอดทน และการกลั่นกรองที่สมบูรณ์แบบ"

จุดเด่นที่ไม่ควรพลาด:

✔ 100 คะแนนเต็มจาก James Suckling

ปีล่าสุดของ VIK Millahue คว้าคะแนนเต็ม 100/100 จากนักวิจารณ์ระดับโลก James Suckling ตอกย้ำคุณภาพระดับไอคอนของชิลีและของโลก

✔ บอร์กโดซ์สไตล์จากชิลีที่ “ไม่ธรรมดา”
เบลนด์จากสายพันธุ์ Bordeaux อย่าง Cabernet Sauvignon, Carmenère, Cabernet Franc, Merlot และ Syrah ทำให้ได้ไวน์ที่มีโครงสร้างแน่น หอมซับซ้อน และมีความสง่างาม

✔ กลิ่นหอมลึกของไวน์ชั้นเยี่ยม
เปิดด้วยกลิ่นผลไม้ดำสุก อาทิ ลูกพลัม แบล็กเบอร์รี่ เสริมด้วยโน้ตของโอ๊ก เฮิร์บ แร่ธาตุ และกลิ่นหอมของโกโก้ วานิลลา และเปลือกไม้

✔ รสสัมผัสซับซ้อนและทรงพลัง
รสชาติแน่นนุ่ม มีแทนนินละเอียดที่ค่อย ๆ เผยตัวเป็นชั้น ๆ รสยาวลึก และพัฒนาได้ยาวนานในขวด เหมาะสำหรับนักสะสมหรืองาน Fine Dining ระดับสูง

✔ บ่มอย่างประณีตในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสใหม่ 100%
ไวน์ VIK Millahue ผ่านการบ่มใน French Oak ใหม่กว่า 24 เดือน เพื่อพัฒนาความซับซ้อนในโครงสร้าง และเสริมรสนุ่มลึกอย่างสมบูรณ์แบบ

2. VIK Milla Cala – เสน่ห์แห่ง Millahue ในสไตล์ที่เข้าถึงได้ พร้อมคะแนน 95 จาก James Suckling

VIK Milla Cala คืออีกหนึ่งผลงานจากไวเนอรี่ระดับโลก “VIK” ที่ถือเป็น “น้องคนกลาง” ในตระกูลไวน์ของแบรนด์ แต่มากด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ไวน์รุ่นนี้ถือกำเนิดจากไร่ Millahue Valley หรือ “หุบเขาแห่งทองคำ” ที่ผสานทั้ง terroir อันสมบูรณ์แบบของประเทศชิลี และความพิถีพิถันในการทำไวน์แบบบอร์กโดซ์เข้าด้วยกัน

ชื่อ “Milla Cala” นั้นมาจากภาษา Mapuche แปลว่า “ทองคำแห่งหุบเขา” เป็นการยกย่องผืนดินที่ให้ชีวิตใหม่กับไวน์คุณภาพระดับโลก และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นสัมผัสแบรนด์ VIK ในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

จุดเด่นที่ไม่ควรพลาด:

✔ 95 คะแนนจาก James Suckling
เป็นหนึ่งในไวน์ที่ได้รับการยอมรับสูงมากจากนักวิจารณ์ระดับโลก โดยปีล่าสุดได้รับ 95 คะแนน ตอกย้ำว่าไวน์รุ่นนี้ไม่ใช่แค่ไวน์รอง แต่คือผลงานคุณภาพที่มาจากหัวใจของแบรนด์

✔ บอร์กโดซ์เบลนด์ที่ลงตัว
ใช้สายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Carmenère, Cabernet Franc, Syrah และ Merlot ผสมผสานกันอย่างกลมกล่อม ให้รสชาติที่มีมิติและกลิ่นหอมซับซ้อน

✔ กลิ่นหอมของผลไม้เข้มข้น ผสานกลิ่นโอ๊กและเครื่องเทศ
มีกลิ่นแบล็กเบอร์รี่ ลูกพรุน วานิลลา เปลือกไม้ และเครื่องเทศนุ่ม ๆ ที่มาจากการบ่มในถังโอ๊กฝรั่งเศส (ประมาณ 20–24 เดือน)

✔ รสสัมผัสนุ่มแน่นและบาลานซ์
แทนนินนุ่ม เส้นโครงสร้างรสชัดเจน แต่ดื่มง่าย เป็นไวน์ที่มีทั้งพลัง ความสดชื่น และความลุ่มลึกในเวลาเดียวกัน

✔ เหมาะกับอาหารหลากหลายประเภท
จับคู่ได้ดีกับสเต๊กเนื้อย่าง ซี่โครงหมูซอสเข้ม หรืออาหารไทยที่มีเครื่องเทศ เช่น เนื้อผัดพริกแห้ง หรือพะแนงเนื้อ