หากคุณกำลังมองหาไวน์จากอเมริกาใต้ที่ให้ทั้ง “รสชาติจริงใจ” และ “ประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต” Maule Valley (เมาเล่ วัลเลย์) คือภูมิภาคไวน์ที่คุณไม่ควรพลาด

ที่นี่คือบ้านของต้นองุ่นอายุหลายร้อยปีของไร่องุ่นที่ยังปลูกแบบไม่ใช้น้ำ (dry farming) ของผู้ผลิตเล็ก ๆ ที่ตั้งใจรักษาวิถีดั้งเดิมเอาไว้ท่ามกลางโลกยุคใหม่ และตอนนี้…โลกไวน์กำลังหันกลับมาจับตา Maule Valley อีกครั้ง

Maule Valley: ประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิต

Maule Valley ตั้งอยู่ใน โซนตอนใต้ของ Central Valley ของประเทศชิลี ห่างจากกรุงซานติอาโก (Santiago) ลงมาประมาณ 250 กม. พื้นที่แห่งนี้ขนาบด้วย เทือกเขา Andes ทางตะวันออก และ เทือกเขา Coastal Range ทางตะวันตก

ภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 แนวเขานี้ ทำให้ Maule Valley มี microclimate ที่หลากหลาย ทั้งเขตอากาศเย็นจากลมทะเลและภูเขา (เหมาะกับองุ่นขาว) และเขตอบอุ่นแบบเมดิเตอร์เรเนียน (เหมาะกับองุ่นแดงสายเข้ม)

ดินที่นี่ก็หลากหลายมาก ทั้งดินเหนียว ดินตะกอน ดินแกรนิต และ ดินภูเขาไฟ ซึ่งช่วยเพิ่มกลิ่น mineral และความซับซ้อนให้กับไวน์ได้ดีมาก

ความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์:

Maule Valley คือแหล่งปลูกองุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศชิลี การปลูกองุ่นเริ่มขึ้นตั้งแต่ ศตวรรษที่ 16 โดยนักบวชชาวสเปน องุ่นพันธุ์แรก ๆ ที่นำเข้าคือ “País” ซึ่งกลายเป็นองุ่นพื้นเมืองของชิลี ที่นี่คือหนึ่งในไม่กี่แหล่งในโลกที่มี ต้นองุ่นกว่า 100 ปี และยังให้ผลผลิตดีเยี่ยม

ในช่วงศตวรรษที่ 20 Maule Valley เคยเป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในชิลี โดยเน้นผลิตเพื่อการบริโภคในประเทศเป็นหลัก แต่ในยุค 2000 เป็นต้นมา ผู้ผลิตรุ่นใหม่และ winemaker จากทั่วโลก ได้หันกลับมาค้นหาศักยภาพของดินและต้นเก่าใน Maule อีกครั้ง ทำให้ไวน์จาก Maule กลายเป็นที่สนใจของตลาดโลก ทั้งในกลุ่ม natural wine, artisan wine, และ ไวน์สาย terroir-driven

องุ่นเด่นประจำ Maule Valley

● Carignan → องุ่นที่ฟื้นฟูโดยโครงการ VIGNO (Vignadores de Carignan) เน้นใช้ต้นอายุ 30 ปีขึ้นไป ให้ไวน์ที่เข้มข้น มี acidity สด และเนื้อซับซ้อน
● País → พันธุ์เก่าแก่ที่ให้ไวน์เนื้อเบา เปรี้ยวสด มีความ rustic แต่ดื่มง่าย
● Cabernet Sauvignon / Merlot → สายพันธุ์ที่นิยมปลูกในโซนอบอุ่น ให้รสจัดแน่น
● Mourvèdre / Cinsault / Malbec → ถูกทดลองปลูกมากขึ้น และให้ผลลัพธ์น่าสนใจ
● Sauvignon Blanc / Chardonnay → ปลูกในเขตชายฝั่ง ให้ไวน์ขาวที่หอมและมี acidity สูง

ทำไมถึงควรลองไวน์จาก Maule

● รสชาติ “จริงใจ” และไม่ปรุงแต่ง – หลายแบรนด์เน้น low-intervention, ใช้ยีสต์ธรรมชาติ
● แสดง terroir ชัด – ดินภูเขาไฟให้กลิ่น mineral เฉพาะตัว
● ผลผลิตต่ำจากต้นเก่า – ทำให้ไวน์เข้มข้นแต่ไม่หนัก
● ราคาดีเกินคาด – เทียบคุณภาพกับไวน์ฝรั่งเศสหรือแคลิฟอร์เนียแล้วถือว่าคุ้มมาก
● มีความ “local” และ “ธรรมชาติ” สูง – ถูกใจกลุ่มนักดื่มรุ่นใหม่สาย sustainable

จับคู่กับอาหารอะไร?

● Carignan → สเต๊กหมู, ซี่โครงย่าง, ขาหมูเยอรมัน
● Cabernet / Merlot → เนื้อแดงย่าง, แฮมรมควัน
● Sauvignon Blanc → ซีฟู้ด, กุ้งอบชีส, ซาชิมิ

ไวน์ที่น่าสนใจจาก Maule Valley

Bodega Volcanes de Chile Parinacota

< ↑ Explore : Bodega Volcanes de Chile Parinacota >

Parinacota คือไวน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขาไฟแฝดทางตอนเหนือของชิลี ซึ่งสื่อถึงพลังอันดิบดั่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ไวน์ขวดนี้เป็นการผสมผสาน Syrah และ Carignan ที่ปลูกบนดินภูเขาไฟใน Maule Valley — แหล่งปลูกองุ่นเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องเทอรัวร์ดินลึกและอากาศเย็นในตอนกลางคืน

● คาแรคเตอร์: กลิ่นแบล็กเบอร์รี่ พริกไทยดำ และกลิ่นสโมกเล็กน้อยจากการบ่มในถังโอ๊คฝรั่งเศส ให้สัมผัสที่เข้มข้นแต่ไม่หนักเกินไป มีพลังแฝงแบบไวน์โลกใหม่
● เหมาะสำหรับ: สายไวน์แดงที่ชอบรสเข้มแต่ซับซ้อน และอยากลองไวน์สายดินภูเขาไฟที่ให้โครงสร้างแน่นและรสชาติแปลกใหม่

Concha Y Toro Terrunyo Sauvignon Blanc

< ↑ Explore : Concha Y Toro Terrunyo Sauvignon Blanc >

ซีรีส์ Terrunyo คือการสำรวจ “ดินแดนแห่งความเฉพาะตัว” ของไวน์ Concha Y Toro โดย Sauvignon Blanc ขวดนี้มาจากแปลง “Los Boldos” ที่อยู่ใกล้ชายฝั่ง ทำให้ได้ไวน์ขาวที่สด สว่าง และมีกลิ่น minerality สูง

● คาแรคเตอร์: กลิ่นตะไคร้ มะกรูด ดอกไม้ขาว และหินแร่ ผสานความสดชื่นแบบ citrus ให้รสเปรี้ยวสดแต่มีความเนียนในปลายลิ้น
● เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบ Sauvignon Blanc แบบมี layer และอยากสัมผัสความซับซ้อนแบบเย็นทะเลของชิลีในแก้วเดียว

Aromo Rose Syrah

< ↑ Explore : Aromo Rose Syrah >

Aromo คือผู้ผลิตที่ได้รับการยกย่องใน Maule Valley สำหรับไวน์ที่ดื่มง่ายและมีคาแรคเตอร์ของผลไม้เต็มเปี่ยม ขวดนี้คือ Rosé ที่ทำจาก Syrah 100% — ให้กลิ่นผลไม้แดงและความหอมที่โปร่งใสแบบหญิงสาวในฤดูใบไม้ผลิ

● คาแรคเตอร์: กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ แคนตาลูป กุหลาบ และทับทิม บอดี้บางเบา สดชื่นแบบง่าย ๆ แต่มีเสน่ห์ที่ติดลิ้น
● เหมาะสำหรับ: สาย picnic, brunch, หรือดื่มริมทะเล ที่อยากได้ rosé สวยๆ สดใส ดื่มง่ายไม่ต้องคิดเยอะ

Concha Y Toro Terrunyo Cabernet Sauvignon

< ↑ Explore : Concha Y Toro Terrunyo Cabernet Sauvignon >

Terrunyo Cabernet Sauvignon ผลิตจากองุ่นในแปลง “Block 27” แห่ง Puente Alto — หนึ่งในแหล่ง Cabernet ที่ดีที่สุดในชิลี ที่นี่มีความเย็นจากเทือกเขา Andes ทำให้องุ่นสุกช้า มีความซับซ้อนสูงและโครงสร้างแน่นแบบไวน์เกรด Grand Cru

● คาแรคเตอร์: แบล็กเคอร์แรนท์ มอคค่า ใบยาสูบ โอ๊กฝรั่งเศส และแทนนินที่ละเอียดแต่นุ่มยาว ปิดท้ายด้วยความเป็นแร่และ spice แบบคลาสสิก
● เหมาะสำหรับ: สาย Cabernet สายเก็บไวน์ สาย steak lover และคนที่มองหาไวน์แดงจริงจังคุณภาพสูงจากโลกใหม่

Maule Valley คือจุดเริ่มต้นของไวน์ชิลี… และในขณะเดียวกันก็อาจเป็น “คำตอบใหม่” สำหรับนักดื่มไวน์ที่กำลังมองหาสิ่งที่แตกต่าง

ไม่ว่าคุณจะเป็นสาย natural wine, artisan wine หรือแค่อยากเจอรสชาติที่ซื่อตรงและมีเอกลักษณ์ ไวน์จาก Maule Valley จะทำให้คุณได้มากกว่าแค่รสชาติ — แต่มอบเรื่องราวที่น่าจดจำ

คลิ๊กเพื่อดูไวน์จาก Maule Valley ทั้งหมด